เมษายน 2016
พ้นจากคลื่นแห่งการตอบโต้
สวัสดีที่รักทั้งหลาย
ฉันคือผู้รักษาเวลา (Keeper of Time) ฉันมาอยู่ในเวลาของคุณเพื่อจะบอกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น คุณอยู่ตรงจุดไหนและความสวยงามที่เรามองเห็นจากมิติที่เราอยู่ คุณอยู่ในสภาวะที่ไม่ปกติ คุณวิวัฒน์ขึ้นเร็วกว่าที่คุณคิดว่ามันจะเป็นไปได้ ใช่แล้ว เราเข้าใจดี คุณดูข่าวและคิดว่าทุกอย่างถอยหลังมากกว่าก้าวไปข้างหน้า แต่จริงๆแล้วมันมีความเคลื่อนไหวที่เร็วมากของผู้คนที่ทำให้เกิดอาการสะท้อนกลับที่รุนแรงและไม่เกิดประโยชน์ และนั่นคือสิ่งที่เป็นเช่นนั้น หากคุณลองมองชีวิตคุณย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน คุณจะเห็นว่าคุณได้พัฒนาพ้นจากหลายๆสิ่ง และจริงๆก็กำลังมีความเปลี่ยนแปลงหลายด้านอย่างเห็นได้ชัด เพราะขณะนี้คุณมีมุมมองกับหลายสิ่งต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง การก้าวไปข้างหน้าซึ่งเป็นไปอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่ปีได้ก่อให้เกิดอาการสะท้อนกลับที่รุนแรงและไม่เกิดประโยชน์ และรูปแบบของคลื่นที่มีความสมดุล มันเป็นเรื่องธรรมดามากที่คนทั่วไปจะก้าวไปข้างหน้า 3 ก้าว ถอยหลัง 2 ก้าว แต่เราขอบอกว่าตอนนี้เหมือนไปข้างหน้า 5 ก้าว ถอยหลัง 1 ก้าว ดังนั้น จงอย่าทดท้อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มีหลายสิ่งที่คุณสามารถนำมาซึ่งแสงสว่างใหม่ๆและช่วยยกระดับแรงสั่นสะเทือนของผู้คนให้เกิดความตระหนักรู้ที่สูงขึ้น มันจะอยู่ในขั้นที่สูงกว่าเมื่อก่อนซึ่งจะเป็นการเตรียมการไปสู่วิวัฒนาการของมนุษย์ ตอนนี้คุณนำแสงสว่างมามากกว่าเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2011 ถึง 1/3ส่วน
ระหว่างรักกับกลัว
ซึ่งนั่นก็หมายถึงว่าแม้แต่เซลล์ในร่างกายของคุณต้องปรับตัวอย่างมากในทุกๆขณะเพื่อให้สอดรับกับแสงสว่างนั้น คุณจึงเข้าใจแล้วว่าทำไมบางครั้งร่างกายคุณจึงรู้สึกราวกับถูกดึงและเหนื่อยล้า ทั้งนี้เพราะมันเคลื่อนไหวด้วยระดับความเร็วของความรัก ที่รัก มันมีความสวยงามเกิดขึ้น อย่างแรกเลยก็คือ Gridใหม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาซึ่งเราภูมิใจมากแม้จะมีคนน้อยกว่าสองสามร้อยคนก็ตาม Grid นี้กระจายอยู่บางแห่งบนโลกและหากไม่มีอะไรมากไปกว่านี้อีกมันจะช่วยให้คลื่นที่เข้ามาสมดุลขึ้น และให้มนุษยชาติกลับไปสู่ช่วงแห่งวิวัฒนาการ ในขณะเดียวกัน มีด้านที่ต่างกันที่เกิดขึ้น ด้านหนึ่งหวังที่จะเคลื่อนออกไปด้วยความรักแต่อีกด้านไปด้วยความกลัว เราไม่ขอบอกหรอกนะว่าด้านไหนถูกหรือผิด เพราะมันขึ้นกับแต่ละคนและทุกคนที่จะตัดสินใจเอง อย่างไรก็ดี เราบอกได้ว่านั่นมันตรงกันข้ามมากเลย สิ่งที่ตรงข้ามกับความรักไม่ใช่ความเกลียดชัง แต่คือความกลัว เมื่อคุณเข้าใจเช่นนั้น คุณก็จะเลือกข้างได้ กรุณาเข้าใจนะที่รักว่ามันไม่ใช่การสู้รบอะไรหรอก คุณมักจะสู้รบกับความมืด ใช่แล้ว เราต้องต่อสู้กับความมืด เป็นการสู้รบระหว่างความสว่างกับความมืด โปรดจำไว้ว่า หากคุณสู้ความมืดด้วยความสว่าง คุณจะจบลงด้วยสิ่งที่เป็นสีเทา ที่รัก มันไม่ใช่การสู้รบกับความมืด นั่นไม่ต้องกลัวไปหรอก เมื่อคุณกลัวอะไรบางอย่าง คุณต้องสู้กับมัน ดังนั้น จงดูว่ารากเหง้าของความกลัวนั้นคืออะไรที่ทำให้คุณคิดหรือมันเชื่อมโยงกับอะไรเมื่อมีใครบางคนมากดปุ่มนั้น มันควรที่จะเอามาร้อยเรียงกันมากกว่าปิดหูปิดตาแล้วเลือกข้าง(ระหว่างรักกับกลัว – ผู้แปล)
สิ่งนี้เป็นวิวัฒนาการที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ที่คุณไม่ค่อยที่จะเรียนรู้ที่จะพิจาณาแยกแยะ และทั้งหมดนี้คือ
สิ่งที่เราอยากจะบอกในวันนี้
30 วันแห่งการให้อภัย
คุณทุกคนคือหนึ่งเดียวกัน มันเป็นการยากที่จะบอกว่า ณ เวลาหนึ่งเมื่อคุณกำลังมีการเลือกตั้งและทุกคนต่างก็ชี้นิ้วเข้าหากัน พยายามชี้ให้เห็นถึงเรื่องแย่ๆและความท้าทายต่างๆของกันและกันมากว่าที่จะพูดคุยกันว่าจะทำอะไรหากได้รับการเลือกตั้ง มันช่างน่าท้าทายจริงๆ และในระดับบุคคลก็มีประสบการณ์นั้นเช่นกัน เพราะคุณบางคนรู้สึกเหมือนหลงทางไป คุณอาจรู้สึกเหมือนว่าพลังงานและงานที่ทำไปไม่มีผลที่ดีพออย่างที่คุณต้องการ เราสามารถช่วยคุณได้เพราะมีเทคนิคง่ายๆที่ใช้ได้ดีแม้ในพลังงานที่เข้ามาตอนนี้ เราขอบอกเช่นเดียวกันว่าในอีก 30 วันข้างหน้า จะมีโอกาสเปิดขึ้นในการใช้เทคนิคนั้น แม้กระทั่งจะมีพลังจากจักรวาลอยู่ข้างหลังคุณ สิ่งนั้นเรียกว่า การให้อภัย และมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มันจะเป็นอย่างไรหากคุณให้อภัยคนที่วางระเบิดในเบลเยี่ยมเมื่อเร็วๆนี้ มันจะเป็นอย่างไรหากคุณอยู่ในสถานการณ์เดียวกับผู้วางระเบิด มันจะเป็นอย่างไรที่ในทันใดคุณต้องทำบางสิ่งที่แม้แต่ภายในของคุณก็รู้สึกผิด นั่นคือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นในการแก้ไขทุกสิ่ง
เกมระหว่างความสว่างและความมืด
ที่รัก มันมีช่วงเวลาที่คุณก้าวสู่ความสมัครสมาน อาจจะมีความสมานฉันท์กันมากขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน คุณจะมีความสมัครสมานกับคนที่ทำร้ายคุณทุกครั้งที่มีโอกาสได้อย่างไร นั่นคือสิ่งที่จะเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อความสว่างขับไล่ความมืดหรือเมื่อความมืดขับไล่ความสว่าง ใครคือผู้ชนะกันเล่า โอ ที่รัก ไม่ต้องโต้เถียงกันหรอกนะ เมื่อแสงสว่างส่องลงบนความมืด แสงสว่างย่อมมีชัยและนั่นคือเหตุผลที่เรากำลังบอกคุณว่ามันไม่มีความตรงข้ามกัน มันแค่ความเป็นขั้วที่มนุษย์อยู่กับมันมาเป็นเวลายาวนานและกลายเป็นความคิดและความเชื่อบนโลกนี้ โปรดจำไว้ว่าความเป็นขั้วไม่ได้เป็นของที่นี่ การตอบโต้กันเป็นโอกาสที่กลุ่มสุดโต่งใช้ความกลัวกระหน่ำลงบนจิตใจผู้คน แน่นอน สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือไม่มีใครที่จะถูกครอบด้วยความกลัวอยู่ชั่วนาตาปี ใช่ มันมีผลกระทบมากกับผู้คนในช่วงเวลาหนึ่ง แต่แค่เวลาสั้นๆเท่านั้นเพราะคุณมีระบบความสมดุลในตัวคุณเอง นั่นคือเหตุผลที่คุณมีแสงสว่างมากมาย และหากมันมีเพื่อความสมดลคุณก็จะสามารถออกจากการตอบโต้นั้นได้ คุณจะมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่และมวลมนุษยชาติจะเริ่มมีการสร้างสรรค์แทนการทำลายล้างกัน อันเป็นหนทางที่คุณได้ทำมาเป็นเวลาหลายปีมานี้
ความเห็นอกเห็นใจ
การสร้างสรรค์ด้วยกันเป็นอย่างไร ? มันเริ่มจากการมีความเห็นอกเห็นใจต่อกัน ซึ่งบางครั้งมันไม่ง่ายเลย เพียงเมื่อคุณเรียนรู้ถึงคนๆนั้นจะทำให้คุณเข้าใจถึงความรู้สึก ความเชื่อและอะไรที่นำพาหรือจูงใจเขา มองดูสิ ลองสืบเสาะดูและพิจารณาดูว่าอะไรที่จะทำให้คุณปลดปล่อยความโกรธออกไปได้ คุณต้องการเอาบางสิ่งกลับคืนมาหรือแก้ไขสิ่งผิด ? ไม่แน่นอน คุณได้กลับคืนสู่แสงสว่างที่ขับไล่ความมืด ก้าวออกจาก
วิวัฒนาการคืนสู่ความเป็นขั้ว แต่กระนั้นคุณได้ก้าวไปสู่ความเป็นสามขั้ว ที่ซึ่งเงาสามารถหายไป ความมืดไม่สามารถมีอยู่ในที่สว่าง เคยมีกรณีไหนไหมที่ความมืดชนะความสว่าง ? ไม่เลยที่รัก ไม่แม้แต่ในฟิสิคส์ของคุณ สิ่งที่เราขอจากคุณคือให้ส่องแสงสว่างมากขึ้น ไม่เพียงกับปฏิกิริยาของคุณกับสิ่งต่างๆเท่านั้นแต่กับการให้อภัยด้วย
มนุษยชาติวิวัฒน์ขึ้นเป็นหนึ่งเดียวกัน
เอาล่ะ จะเป็นอย่างไรหากคุณพูดว่า “โอเค เราให้อภัยพวกเขาแล้ว เราส่งความรักให้กับสิ่งที่เขาผิดพลาดไป อย่างน้อยก็จากมุมมองของเรา เราส่งความรักให้พวกเขาในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของมนุษยชาติ เพราะพวกเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการ ” ดังที่เราได้บอกไปหลายครั้งแล้ว ความตระหนักรู้เป็นคลื่นของแรง สั่นสะเทือน แม้คุณอาจจะพิจารณาว่านี่คือแรงสั่นสะเทือนสูงสุดและนั่นคือแรงสั่นสะเทือนที่ต่ำสุด ความจริงแล้วทั้งสองเท่าเทียมกันในบางกรณี มนุษยชาติก้าวไปบนการตระหนักรู้มวลรวม ไม่แค่เฉพาะในแรงสั่นสะเทือนสูงๆเท่านั้น แต่มันจะไม่เป็นเช่นนั้นต่อไปแล้ว เมื่อก่อนมันจะต้องก้าวไปด้วยกัน ทำให้มนุษย์ถูกจำกัดในการวิวัฒน์ขึ้นจากคนที่มีแรงสั่นสะเทือนต่ำสุด พวกเขาก้าวออกไปได้เร็วเพียงใด ? พวกคุณสนใจที่จะทำงานร่วมกับคนที่มีแรงสั่นสะเทือนต่ำๆ สนใจที่จะดูว่าคุณสามารถทำอะไรได้เพื่อยกพวกเขาให้สูงขึ้นและช่วยพวกเขาวิวัฒน์ขึ้นเช่นกัน กระนั้นสิ่งที่คุณทำได้ คือการให้อภัยพวกเขา เพราะมันได้ผล มันคือก้าวต่อไปของมวลมนุษย์ซึ่งจะนำคุณออกจากคลื่นนั้นโดยสิ้นเชิง มันจะเป็นโอกาสที่คุณจะทำบางอย่างให้กับตัวคุณเองมากกว่าการทำให้ความโกรธสงบลง มันจะเกิดในหลายระดับไม่เพียงกับระดับบุคคลเท่านั้น แต่กับระดับประเทศเลยทีเดียว ความจริงแล้ว คุณหลายคนถูกควบคุมโดยความตระหนักรู้มวลรวมโดยไม่รู้ตัว
เกิดอะไรขึ้นเมื่อประเทศของคุณถูกโจมตี ? สิ่งแรกที่คนอยากรู้คือใครคือผู้รับผิดชอบ ทำไมถึงทำเช่นนั้น แล้วจะแก้แค้นหรือเอาคืนได้อย่างไร นั่นคือคำถามของความเป็นขั้ว เป็นพลังงานเก่า ไอน์สไตน์เคยพูดไว้ว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแก้ปัญหาในระดับเดียวกับที่มันถูกสร้างขึ้น (ระดับของแรงสั่นสะเทือน – ผู้แปล) ดังนั้น การแก้ปัญหาต้องมีระดับที่สูงกว่า ต้องออกจากความหงุดหงิดใจและความโกรธขึ้ง เพื่อตั้งเป้าหมายที่สูงขึ้นด้วยการนำแสงสว่างเข้ามามากขึ้น คุณจะรักศัตรูของคุณได้อย่างไร ? โอ มันจะเป็นยังไงกันนะ แต่มันก็ต้องเป็นเช่นนั้นแหละ เพราะเมื่อคุณจากที่ๆคุณมา คนเหล่านั้นอาจอยู่ข้างๆคุณก็ได้ คุณอาจจับมือพวกเขาไว้ระหว่างที่คุณมายังโลกนี้ จิตวิญญาณมักทำเช่นนั้น ดังนั้น มันจะเป็นอย่างไรหากเราพบว่ามันเป็นเช่นนั้น ? เมื่อคุณไปถึงจุดๆหนึ่งที่สำคัญมากและมีคนจำนวนมากพอที่จะทำเช่นนั้น มันจะสลายพลังงานที่สั่งสมมา องค์กร (กลุ่มที่อยู่เบื้องหลังความรุนแรง – ผู้แปล)ที่คุณอาจเรียกอย่างนั้นก็จะล่มสลายไป มันไม่ใช่ว่าองค์กรนั้นไม่ดีและต้องถูกกลบฝังหรอกนะ แต่เพียงเพราะองค์กรนั้นก็คือมนุษย์ จิตวิญญาณเหล่านั้นได้รับการฟื้นฟูและสามารถได้รับการชักนำเพื่อจุดประสงค์ที่ดีมากกว่าเพียงเพื่อมาสร้างการตอบโต้ไปมา
ฝูงชน 100,026 คนที่จำเป็น
นี่เป็นโอกาสที่สมบูรณ์ที่จะก้าวออกจากคลื่นแห่งการตอบโต้นั้นเพื่อที่จะไปถึงจุดที่สูงขึ้น เพื่อที่คุณจะสามารถนำแสงสว่างมามากกว่าที่คุณคิดว่าคุณมี คุณมีสิ่งสวยงามมากมาย แม้แต่เซลล์และจุลินทรีย์ในร่างกายคุณก็เปลี่ยนไปเมื่อเราพูด เพื่อที่จะให้มนุษย์สามารถมีแสงสว่างในตัวเองมากขึ้น เมื่อคุณส่งแสงออกไปในทางที่ดีและเริ่มก่อร่างสร้างขึ้นกับผู้คน บางครั้งก็เกิดปฏิกิริยาขึ้นได้ ซึ่งนั่นก็คือสิ่งที่คุณกำลังประสบในวงกว้าง คุณสามารถเปลี่ยนมันได้โดยการไม่ตอบโต้แต่มันก็ยากที่จะทำเช่นนั้น มีสงครามเกิดขึ้นหลายครั้งที่เกิดขึ้นโดยการตอบโต้กัน อย่าปล่อยให้มันเกิดขึ้นอีกเลยเพราะคุณมีสงครามมากเกินพอแล้ว ก้าวข้ามมันออกมาและถอยออกไปดูเมื่อคุณมีฝูงชนจำนวนหนึ่งที่จำเป็นเพียง 100,06 คน คุณจะเริ่มให้อภัยกันได้แล้วทุกอย่างจะเปิดออกและเปลี่ยนแปลงไป คุณจะมีความมั่นคงเพื่อการเติบโต ซึ่งจะทำให้คุณค้นพบหนทางของตนเองอีกครั้งและก้าวสู่ความเป็นจริงใหม่ด้วยกันในสันติ
ให้ของขวัญแก่อนาคตด้วยการให้อภัย
คุณเริ่มมีวิสัยทัศน์ใหม่แล้วใช่ไหม คุณมีวิธีมองเรื่องต่างๆที่ต่างออกไปแล้ว โปรดจำไว้ว่าไม่มีอะไรผิดอะไรถูก คุณมาบนโลกใบนี้ในตอนนี้เพื่อที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น คุณทำมันขึ้นมา คุณมาที่นี่และได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงแล้ว คุณเป็นผู้นำแสงสว่างที่สวยงาม คุณคือผู้ทำงานแห่งแสงสว่าง เราจึงได้เรียกพวกคุณว่า Lightworkersเห็นหรือยังว่ามันเชื่อมโยงกันอย่างไร ? ช่างสวยงามจริงๆ!
แล้วมันหมายถึงว่าทุกศาสนาจะบรรลุถึงข้อตกลงร่วมกันหรือเปล่า ? ไม่ อาจจะไม่นะ ศาสนาทั้งหลายยังไม่วิวัฒน์ขึ้นไปเท่าไรนักหากคุณไม่ได้สังเกต วัตถุประสงค์ของศาสนาต่างๆคือเพื่อหาข้อชี้แนะให้คุณเดินตามและเข้าใจในขณะที่คุณแสร้งเล่นบทของความแบ่งแยกจากกัน (โดยแท้จริงเรามาจากแหล่งกำเนิดเดียวกัน เราคือหนึ่งเดียวกัน – ผู้แปล) แต่จริงๆแล้วคุณไม่ได้แยกจากกันเลย เพราะคุณนำแสงสว่างจากที่คุณจากมาและทุกๆย่างก้าวของคุณอยู่บนความทึบตัน ที่รัก คุณสามารถให้ของขวัญแก่ตัวเองเพื่ออนาคตด้วยการให้อภัยได้ไหม ? การให้อภัยทำให้หนทางของคุณมีแรงต้านที่น้อยลง และเปิดโอกาสให้คุณก้าวออกไปโดยไม่มีการยึดติดรือเล่นเกมระหว่างความสว่างและความมืด เริ่มด้วยการถนอมแสงสว่างไว้ในตัวคุณเอง ส่องออกไปและพูดแต่ความจริงในทุกๆโอกาส โอ เรารู้ คุณบางคนมีความยากลำบากมากๆในการที่จะพูดความจริงเพราะคุณรู้สึกว่าคุณไม่ควรจะพูดในหลายๆกรณี บางครั้ง คุณสงสัยว่า “ คนอื่นๆรู้มากกว่าฉันเสียอีก แล้วทำไมฉันต้องพูดด้วยล่ะ ทำไมฉันแค่เพียงฟังเฉยๆและเก็บข้อมูลไม่ได้หรอ ” ที่รัก มันก็เพราะว่าคุณได้รับชิ้นส่วนของปริศนาที่คุณตกลงปลงใจที่จะมีเมื่อคุณลงมาเกิด ทุกอย่างที่คุณสัญญาไว้กำลังรอคุณและส่งเสียงให้คุณทำในก้าวต่อไป สิ่งที่คุณมีพันธสัญญาไว้ได้ช่วยเหลือคุณตลอดการเดินทางอยู่ด้วย ตอนนี้จึงเป็นโอกาสที่จะเข้าไปสร้างความเป็นจริงขึ้นใหม่ ความเป็นจริงบางอย่างที่เป็นของคุณและนำคุณไปสู่อีกพันปีข้างหน้า คุณพร้อมไหม ? คุณได้ทำในสิ่งที่สุดยอดในการโอบอุ้มแสงสว่าง คุณหลายคนอาจไม่รู้ถึงสิ่งนี้เพราะคุณตัดสินตนเองอยู่ เราเห็นและเข้าใจดี อย่างไรก็ดี เราเห็นและบอกคุณหลายๆครั้งเพราะมันเริ่มเกิดวงจรที่เป็นลบ คุณคือผู้สร้าง ดังนั้นทุกๆความคิดที่เกิดขึ้นระหว่างหัวกับใจของคุณได้ปรากฎอยู่
ตรงหน้าคุณ ยิ่งคุณให้พลังงานกับใจของคุณมากเท่าไหร่ สิ่งที่คุณต้องการสร้าง (Manifest) ก็จะเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้น อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดที่ได้ถูกรังสรรค์ขึ้นมาในโลกนี้ ? ความกลัว ใช่แล้ว ความกลัวก็เป็นพลังงานของใจเช่นกัน หากสิ่งที่ตรงข้ามกับความรักที่คุณมีอยู่ในหัวใจของคุณคือความกลัว คุณก็จะเห็นว่าความกลัวก็มาจากหัวใจนั่นเอง
การประสานกันอีกครั้งของแสงสว่าง
ที่รัก สูดหายใจและด้วยการหายใจนี้ทำให้เกิดความมั่นใจ ตรึงมันไว้กับความเป็น (Being) ของคุณ ตรึงมันไว้กับทุกๆเซลล์และจุลินทรีย์ในร่างกายของคุณ เพราะทั้งแสงสว่าง เซลล์และจุลินทรีย์ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของคุณที่มักจะแกล้งทำเป็นว่าแยกจากกัน ถึงเวลาแล้วที่จะกลับมารวมกันใหม่ของแสงสว่างทั้งปวง และคุณจะสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากตราบเท่าที่คุณมีความรื่นรมย์
เอาล่ะ แล้วการให้อภัยอื่นๆล่ะ ? มนุษย์เกือบทุกคนมีความโกรธอะไรบางอย่างหรือความหงุดหงิดคับข้องใจที่เขาเก็บไว้เป็นแรมปี ซึ่งคุณก็ได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้ ในระหว่าง 30 วันนี้ให้หาใครบางคนหรือแม้แต่ตัวคุณเองในอดีตที่คุณต้องการให้อภัย จงปลดปล่อยออกไปและทำพลังงานให้ถูกต้องกับตัวคุณเองเพราะมันมีความวิเศษรอคุณอยู่ คุณคือผู้ที่มีความยิ่งใหญ่มากกว่าที่คุณรู้เสียอีก คุณเริ่มที่จะตื่นจากความฝัน คุณอยู่ที่นี่ สัมผัสกันและกัน ปลุกกันให้ตื่น แบ่งปันแสงสว่างแก่กันและโอบกอดแสงนั้นไว้ จงกล้าที่จะพูดความจริง หากคุณคิดว่าคุณไม่คู่ควรที่จะทำเช่นนั้น มันก็มีหนทางที่คุณจะพูดออกมาได้และยังคงมีพื้นที่ที่จะพูดความจริงอื่นๆอยู่ ชิ้นส่วนปริศนาต่างๆเริ่มก่อตัวขึ้นให้เห็นแล้ว
ตอนนี้เป็นเวลาที่งดงามบนโลก เรารู้ว่าคุณเห็นเรื่องแย่ๆมากมายและเข้าใจดีว่าคุณหลายคนต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด โปรดรู้ไว้ว่ามันเพียงแค่ชั่วคราวสำหรับทุกคน และโปรดเชื่อว่าคุณมีเครื่องมือที่จำเป็นในการเปลี่ยนทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า เริ่มจากการที่ทำตัวเองให้ถูกต้อง ปลดปล่อยความมืดให้ไปสู่แสงสว่าง มั่นใจว่าคุณจะสามารถดูแลทุกอย่างได้
คุณคือผู้วิเศษ คุณทุกๆคน คุณคือรูปธรรมชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่แค่แสร้งทำเป็นแบ่งแยกจากกันเพื่อมาที่นี่และเล่นเกมที่สวยงามกัน คุณทำได้ดีมาก ! คราวนี้ ลองพิจารณาถึง 30 วันข้างหน้าว่าคือโอกาส ดูว่ามีอะไรบ้างที่คุณสามารถปลดปล่อยออกไปและความเบาสบายที่คุณจะมี เมื่อคุณให้อภัยและให้ของขวัญของอนาคตแก่ตัวคุณเองยินดีต้อนรับกลับบ้าน ที่รักทุกคน
เรารู้สึกเป็นเกียรติที่เราขอให้คุณปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างให้เกียรติกัน ไม่ว่าพวกเขาคือใครก็ตาม ดูแลกันและกันและเล่นเกมด้วยกันอย่างดี
เอสปาโว
เดอะ กรุ๊ป
Copyright Notice:
Copyright 2000 – 2016 Lightworker. www.espavo.org This information is meant to circulate and may be freely disseminated, in whole or in part with the following conditions: Use of this material signifies that the user agrees to the following conditions: 1. The words “Copyright 2000 – 2015 Lightworker. www.espavo.org” will be included with all published material. 2. User agrees that all rights, including copyrights of translated material, remain the property of Lightworker. If you translate this material we reserve the right to share that translation with credit to you as translator, on the Lightworker site to make it available to all. Further information from the Group may be found at: https://www.espavo.org. Thanks for helping to spread the Light!