กรกฎาคม 2561

ภาพสะท้อนของอลิเซีย

สวัสดีที่รัก

ฉันคือเมอร์เลียและฉันมาวันนี้เพื่อบอกเล่าเรื่องราวให้กับคุณ มันเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจที่คุณอาจจะเกี่ยวข้องด้วยมันเกี่ยวกับเด็กสาวคนหนึ่งที่ชื่ออลิเซียผู้มีพ่อแม่ในชาติภพต่างๆที่ยอดเยี่ยมที่เธอเป็นผู้เลือกเองเมื่อได้ทำพันธสัญญาจากอีกด้านหนึ่งของม่านพรางแล้ว เธอตัดสินใจที่จะมาและเล่นเกมของการแสร้งทำเป็นมนุษย์ ขณะที่เธอมาในชาติภพนี้เธอมีภาคต่างๆ 11ภาคที่แตกต่างกัน ภาคที่เราจะกล่าวถึงนี้เธอมีพ่อแม่ที่วิเศษมากและเธอก็รักบูชาพวกเขามากด้วยอลิเซียเติบโตพร้อมการเชื่อฟังทุกอย่างที่พวกเขาบอกเธออลิเซียหนูสวยมาก อลิเซียหนูช่างมีเสน่ห์อลิเซียหนูสามารถเป็นอะไรก็ได้ที่หนูต้องการและเธอก็เติบโตขึ้นมาด้วยความเชื่อเหล่านั้น

อลิเซียที่น่าสงสาร

ไม่นานก่อนที่อลิเซียจะไปโรงเรียนและมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กคนอื่นๆ ในช่วงปีแรกๆเป็นปีที่ดีสำหรับเธอที่โรงเรียน อย่างไรก็ตามในปีที่สามอลิเซียตระหนักว่าเธอมีรูปร่างที่แตกต่างจากเพื่อนร่วมชั้นเรียนมาก อลิเซียมีน้ำหนักตัวมากเพราะเธอมีพลังงานในร่างกายของเธอสูงแต่แม่ของเธอยังคงบอกกับเธอว่า “อลิเซียหนูสวยมาก อลิเซียหนูวิเศษมาก! ไม่นานอลิเซียก็หยุดเชื่อพ่อแม่ของเธอเพราะเพื่อนร่วมชั้นของเธอบอกบางอย่างที่ต่างไป

ช่วงแรกรุ่นของเธอเป็นช่วงที่เลวร้ายที่สุด อลิเซียมองไปที่คนอื่นๆที่โรงเรียนและตระหนักว่าเธอแตกต่างจากคนอื่นๆเพื่อนร่วมชั้นบางคนโหดร้ายกับเธอด้วยการเรียกชื่อเธอและไม่ให้เธอร่วมกิจกรรมต่างๆอลิเซียไม่ใช่คนที่โด่งดังเธอเคยบอกกับแม่ว่า “หนูไม่เหมือนพวกเขา แม้แม่จะบอกว่าหนูสวยจริงๆแล้วหนูไม่ได้สวยเลย” ปัญหาเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของตัวเองเป็นประเด็นมากขึ้นๆเพราะแม่ของเธอมีรูปร่างที่สวยงามมาก เรื่องราวเลวร้ายยิ่งขึ้นเมื่อเด็กๆที่โรงเรียนเริ่มที่จะพุ่งเป้ามาที่เธอก็คือกลั่นแกล้งนั่นแหละมันเป็นเรื่องน่าทึ่งสำหรับเราที่เห็นว่าคำและแนวคิดเรื่องการกลั่นแกล้งที่กำลังเกิดขึ้นตลอดเวลาในโลกนี้ ตอนนี้มนุษย์กำลังประเมินอันตรายของการกระทำที่เคยคิดว่าเป็นเรื่องปกติแล้ว อลิเซียเข้าสู่ภายในระดับลึกอันเป็นผลมาจากการถูกกลั่นแกล้งนั้นเพราะการเชื่อมโยงกับพลังของเธอทำให้เธอมีน้ำหนักมากขึ้นขณะที่เธอพยายามจะจัดการกับชีวิตตัวเอง เธอถดถอยและกักเก็บพลังงานไว้แน่นทั่วร่างกาย เธอรู้ดีว่าสิ่งที่พ่อแม่บอกกับเธอไม่เป็นความจริง อลิเซียสามารถมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ได้เมื่อเธออยู่ที่ดินแดนที่เรียกว่าบ้าน แต่เมื่อเธออยู่ในโลกภายนอกมันกลับเป็นอีกเรื่องเลย เธอมองไม่เห็นความงามของเธอ เธอไม่สามารถเป็นคนที่แม่ของเธอเฝ้าบอกได้เลยและพ่อก็บอกกับเธอเสมอว่าอลิเซีย หนูสามารถทำอะไรได้ เธอไม่รู้สึกแบบนั้นและหลบเข้าไปในพื้นที่ๆปลอดภัยสำหรับเธอ

อยู่มาวันหนึ่งพ่อของเธอพบว่าอลิเซียซ่อนตัวอยู่ในห้องของเธอ เขารู้ว่ามันเกินกว่าที่จะพูดคุยเรื่อง

ปกติที่เคยคุยกันด้วยดีแล้ว เขาพูดกับเธอว่า “ดูสิ หนูเรียนดีมากโดยเฉพาะวิชาเลข หนูน่าทึ่งมากนะ พ่อ

ไม่รู้เรื่องเลขคณิตเลย สอนพ่อหน่อยสิ ” เขาพยายามกระตุ้นเธอสุดความสามารถ แต่อลิเซียก็แค่พูดว่า” พ่อก็รู้นะ พ่อแม่น่ะมองเห็นสิ่งที่ต่างไปพ่อแม่รักหนูแต่นั่นไม่ใช่ตัวหนูในโลกนี้ “เธอขาดความมั่นใจในตนเองอย่างมากมายและเมื่อเวลาผ่านไปเธอเข้าสู่การเป็นวัยรุ่นและตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าที่คุณเรียกว่าเป็นภาวะซึมเศร้าทางการแพทย์ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับอลิเซีย เธอไม่รู้ว่าจะคิดถึงมันอย่างไร เธอคิดว่าเธอน่ากลัว เธอหมกตัวอยู่แต่ในห้องและเมื่อใดก็ตามที่แม่ของเธอเริ่มบอกกับเธอว่าอลิเซียหนูสวยมากในวันนี้ เธอก็จะปัดมัน เธอจะหลบเข้าห้องก่อนที่แม่ของเธอจะพูดจบประโยคและดึงตัวเองเข้าสู่ภายในอย่างลึก

ภาวะซึมเศร้าเป็นแรงขับที่สร้างขึ้นเพื่อการเข้าสู่ภายใน

เมื่อแรงขับที่สร้างขึ้นไม่ถูกส่งออกไปข้างนอกมันก็จะกลับเข้าสู่ภายใน นั่นคือมนุษย์ตกอยู่ในสิ่งที่คุณเรียกว่าภาวะซึมเศร้า เหมือนกับการใส่แว่นสีเทาและทุกอย่างที่คุณเห็นก็เป็นสีเทาไปด้วย ทุกอย่างที่เธอเคยทำอย่างสนุกสนานไม่มีอีกต่อไปแล้ว เธอเคยชอบฟังเพลง เธอชอบคณิตศาสตร์และไปโรงเรียน เธอเป็นตัวอย่างสำหรับนักเรียนคนอื่นๆและบางครั้งครูของเธอก็จะพูดว่า “ดูอลิเซียสิ ดูสิ่งที่เธอทำสิ” ครูคณิตศาสตร์ของเธอจะพูดว่า “ถ้าใครมีปัญหาเรื่องคณิตศาสตร์ไปหาอลิเซียสิแล้วเธอจะแสดงให้ดู” แต่พวกเขาก็จะย่องไปข้างหลังเธอและทำให้เธอตกใจ หลายครั้งที่เธออยากยุติการเล่นเกมและจบชีวิตเธอเอง เธอไม่รู้ว่าเธอจะสามารถอยู่ในสถานการณ์นั้นๆได้จริงๆหรือไม่ แต่เธอก็ให้มันปรากฎออกมาและอยู่กับมันอย่างดีที่สุด

เมื่อเวลาผ่านไปเธอสามารถแยกตัวเองออกมาและปกป้องตัวเองจากพลังงานลบเหล่านั้นได้ แต่ก็มีคนๆหนึ่งอายุมากกว่าอลิเซีย1 ปีซึ่งถือได้ว่าเป็นเด็กสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน ชื่อของเธอคือ จูเลียนในระดับมัธยมปลายทุกคนมองไปที่จูเลียนเพราะเธอถ่ายรูปขึ้นและสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ แม้เมื่อจบมัธยมปลายแล้วเธอก็ยังเป็นจุดเด่นในหนังสือรุ่นรูปของเธออยู่ทุกหน้าเพราะเธอมีส่วนร่วมในกิจกรรมค่อนข้างมากและเป็นที่ชื่นชอบอย่างมาก เธอมักจะบอกอลิเซียว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเธอ เธอถามอลิเซียว่า “เธอเป็นอะไรของเธอเนี่ย?” มีหลายครั้งที่เพื่อนของจูเลียนถามเธอว่าทำไมเธอถึงวุ่นวายกับอลิเซียนักและเธอจะตอบด้วยความโกรธว่าอลิเซียทำให้เธอรำคาญจนเธอทนไม่ไหว

อลิเซียฝันถึงวันที่เธอจะพบเด็กผู้หญิงคนนี้และสามารถพูดอะไรกับเธอเพื่อทำให้ทุกอย่างถูกต้องซึ่งจะทำให้จูเลียนเข้าใจ เธอไม่เคยได้พบเด็กน้อยนั้นเลยและแม้กระทั่งหลังจากออกจากโรงเรียนมัธยมไปเรียนที่วิทยาลัยแล้วก็ตาม อลิเซียได้เรียนรู้วิธีการหลีกเลี่ยงที่จะตกเป็นเป้า  รู้วิธีถอยห่างและอยู่กับตัวเองเต็มที่ ภาพของจูเลียนตามหลอกหลอนเธอเมื่อเธอเติบโตขึ้น ทุกครั้งที่เธอมองเข้าไปในกระจกเธอก็จะได้ยินเสียงของจูเลียนเสมอ

ตลอดระยะเวลาเรียนที่วิทยาลัยอลิเซียได้เรียนรู้ที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมกับสิ่งต่างๆแต่ก็ยังคงเก็บตัว เธอมีเพื่อนไม่มากนักซึ่งพอช่วยได้มาก ที่นี่เธอมีความมั่นใจขึ้นเล็กน้อย ในเวลานี้อลิเซียกำลังมองหาสิ่งที่เธอจะทำมีความเป็นไปได้มากมายด้วยทักษะทางคณิตศาสตร์ที่เธอมี แต่ดูเหมือนทุกอย่างดูน่าเบื่อและไม่น่าตื่นเต้นเอาเสียเลย

อลิเซียค้นพบกุญแจสำคัญ

และแล้ววันหนึ่งเพื่อนบ้านของอลิเซียเดินเข้ามาหา เธออายุเท่าอลิเซียคือสามสิบต้นๆ เธอหงุดหงิดกับ

อลิเซียและพูดว่า “ฉันเห็นสิ่งที่เธอกำลังทำและฉันเห็นว่าเธอเป็นใคร การกระทำกับตัวตนของเธอช่างไม่เข้ากันเลย เธอน่ะช่างน่าอัศจรรย์ ชีวิตของเธอควรจะง่ายๆไม่ยากเข็ญเลย “อลิเซียไม่สามารถรับคำบอกกล่าวนั้นได้ มันเหมือนกับแม่ของเธอ เธอเพียงไม่อยากได้ยิน แต่เพื่อนบ้านก็ยังคงพูดต่อ “รู้ไหมว่าลูกสาวฉันกำลังมีปัญหาใหญ่ตอนนี้ เธอคิดว่าเธอน่าเกลียด ไม่ว่าฉันจะทำอะไร ดูเหมือนฉันไม่สามารถจะบอกเธอได้ว่าเธอคือใคร เธอยังไม่เก่งคณิตศาสตร์อีกด้วยเธอพอจะสอนลูกสาวฉันได้ไหมให้เธอสอบผ่านระดับนี้ เราพอจะทำอะไรได้บ้างเพราะฉันรู้ว่าเธอเก็บกดมากและฉันก็กังวลกับเธอ อลิเซียลังเลแต่ก็ตกลงด้วยมันก็แค่การเป็นติวเตอร์ทางคณิตศาสตร์ ลูกสาวของเธออายุย่าง7 ขวบและมีรูปร่างคล้ายกับอลิเซียและไม่นานทั้งสองสาวคุยกันและอลิเซียก็สามารถช่วยเปลี่ยนเด็กหญิงคนนี้ได้อย่างมาก มันทำให้ทั้ง2 คนมีพลังและความมั่นใจ

อลิเซียตระหนักกึงคุณค่าของเธอ

มันช่างน่าสนใจว่ามันทำงานอย่างไร อลิเซียรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าเป็นครั้งแรกในชีวิตมันไม่ใช่เพราะสิ่งที่เธอทำเพื่อตัวเองแต่ด้วยคุณค่าที่เธอมอบให้กับเด็กสาววัย 7 ขวบคนนั้น ด้วยความช่วยเหลือของอลิเซีย เด็กน้อยคนนั้นสามารถหลีกพ้นปัญหาต่างๆที่อลิเซียเคยประสบระหว่างที่เธอการเติบโตขึ้นมา อลิเซียตระหนักว่าถ้าเธอไม่ได้เคยพบความท้าทายต่างๆมาเธอจะไม่สามารถช่วยเด็กหญิงคนนี้ได้ เธอรู้สึกภาคภูมิใจอย่างมาก ไม่ช้าอลิเซียเริ่มมองไปรอบๆเพื่อหาที่ๆธอสามารถทำแบบนั้นได้อีกเธอกลับไปที่โรงเรียน กลับไปเรียนที่วิทยาลัยและได้รับปริญญาด้านจิตวิทยาและรับงานเป็นที่ปรึกษาในโรงเรียนมัธยมและครูสอนพิเศษทางคณิตศาสตร์ เธอเริ่มสนุกกับการทำงานและอุทิศเวลาเป็นอาสาสมัครอีกด้วย

ไม่นาน ผู้บริหารของโรงเรียนก็เริ่มเห็นพลังของเธอที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาจัดตำแหน่งพิเศษให้และให้เธอไปที่โรงเรียนต่างๆโดยเฉพาะเพื่อเด็กหญิงที่ต้องการความมั่นใจในภาพลักษณ์ของร่างกาย อลิเซียมีความสามารถในการมองเห็นอาการของเด็กที่เก็บตัวเหมือนที่เธอเคยเป็นไม่นานเธอเขียนหนังสือและให้ชื่อว่า ภาพสะท้อนในกระจกเงา (Reflections in the Mirror)อลิเซียเล่าถึงประสบการณ์ของเธอในระหว่างที่เติบโตขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวกับจูเลียนซึ่งเธอให้ชื่ออื่นในหนังสือนั้น

อลิเซียหลอมรวมเป็นหนึ่ง

ต้นๆอายุ 42ปีอลิเซียป่วยด้วยโรคที่ทำให้ถึงตาย หลังจากผ่านความเศร้าโศกแล้วอลิเซียยอมรับว่าถึงเวลาแล้วที่เธอจะกลับบ้าน แม้ว่าเธอจะอายุน้อยแต่งเธอได้ทำบางสิ่งที่สำคัญอย่างสมบูรณ์แล้วและลึกในระดับจิตวิญญาณแล้วเธอรับมันได้อย่างลึกซึ้งอลิเซียไม่ต้องรอนานและไม่ถึงปีเธอก็เปลี่ยนผ่านมิติ ขณะที่เธอตายก็มีบางสิ่งเกิดขึ้น ที่รักเมื่อคุณเกิดมาบนโลกใบนี้คุณถกแบ่งออกเป็น 11 ภาคที่แตกต่างกันของเวลาและพื้นที่ทุกภาคเดินไปพร้อมๆกัน ไปกับทางเลือกและประสบการณ์ที่ต่างกัน ที่นี่คุณอาจจะยากจนทางเศรษฐกิจและอีกที่คุณอาจมั่งคั่งร่ำรวย คุณมีประสบการณ์ที่แตกต่างกันทั้งหมดนี้ แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณตายทั้ง11 ภาคนั้นก็กลับมารวมตัวกันเป็นจิตวิญญาณหนึ่งเดียว ทั้งหมดกลับมารวมกันเป็นบุคลิกหลักเดียวอลิเซียมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเธอละจากร่างของเธอและบางอย่างก็ทำให้เธอสนใจขึ้นมาภาคหนึ่งของเธอเองคือคนที่ดูเหมือนและทำตัวคล้ายกับเจ้ากรรมของเธอ : จูเลียน เมื่อทุกภาคกลับมารวมตัวกันเธอเริ่มเข้าใจแล้วว่าเธอคนนั้นคือใครและทำไมพวกเขาทำในสิ่งเหล่านั้น มันกลายเป็นว่าอีกภาคหนึ่งของอลิเซียมีชีวิตที่คล้ายกันมากกับ

จูเลียน

อลิเซียสามารถปล่อยวางได้ทั้งหมดในตอนนั้นเพราะเธอรู้ว่าเธอสร้างประสบการณ์เหล่านั้น และไม่มีอะไรถูกหรือผิด เธอเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ทั้งหมดแม้แต่คนเธอไม่สามารถทนได้ คนที่เธอต้องลุกหนีเธอตระหนักว่านั่นอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เธอได้ทำข้อตกลงกับจูเลียนมาตั้งแต่แรก เมื่ออลิเซียกลับบ้านเธอได้รับการต้อนรับจากพ่อของเธอที่ตายไปเมื่อหลายปีก่อน เขาเป็นคนหนึ่งที่ให้กำลังใจเธออย่างเงียบๆในทุกโอกาสที่เขาสามารถทำได้และบอกเธอว่าเธองดงามเพียงใด เมื่อเขาพบเธอเขาต้อนรับเธอกับบ้านและบอกเธอว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นดีแล้ว ไม่ว่าเธอจะอยู่ในมิติเวลาและพื้นที่ใด ไม่ว่าเธอจะมีประสบการณ์ใด ไม่ว่าเธอจะเป็นคนรังแกหรือถูกรังแก ไม่ว่าเธอจะเป็นคนที่สมบูรณ์แบบหรือมองว่าคนอื่นช่างไม่สมบูรณ์เสียเลยก็ตาม พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณดวงเดียวกัน ทั้งหมดเป็นภาพสะท้อนของกันและกัน อลิเซียได้เรียนรู้บทเรียนที่สวยงาม ทั้งหมดล้วนเป็นแสงสว่างจงมองหาแสงสว่างในทุกที่แล้วคุณจะได้กลับบ้าน สิ่งใดที่คุณกลัวในชีวิตของคุณคุณก็เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งนั้นในภาคอื่นของตัวเอง

จงเพลิดเพลินไปกับการเดินทางนะที่รัก จงรู้ว่าคุณทำได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยเกียรติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เรามาทักทายคุณและขอให้คุณปฏิบัติต่อกันด้วยการให้เกียรติกันและกันดูแลกันและกันและเล่นเกมนี้กันอย่างดี ฉันคือเมอเลียมาพบฉันบ้างนะ

Espavo

____________________________________________

สวัสดีที่รัก

ฉันคือเอ็ม ฉันอยากจะเพิ่มเติมในข้อความข้างต้นที่เมอเลียบอกไปสักหน่อยนะ หากคุณเข้าใจว่าคุณเป็นใครในทุกมิติในทุกเวลาและพื้นที่แล้วล่ะก็ คุณจะเข้าใจถึงความสมบูรณ์แบบในฐานะจิตวิญญาณ คุณไม่สามารถมองเข้าไปในกระจกและมองเห็นความสมบูรณ์แบบของตัวองได้ คุณไม่สามาถจดรายการที่คุณทำถูกผิดแล้วบอกว่านี่คือความสมบูรณ์แบบเพราะคุณกำลังแสร้งทำเป็นมนุษย์อยู่ คุณแยกตัวให้มีประสบการณ์ที่ต่างกันถึง 11 ภาคและซ่อนความสมบูรณ์แบบไว้ในแต่ละภาค สิ่งที่สำคัญที่ต้องรู้ก็คือตอนนี้คุณกำลังอยู่ในมิติที่ 5 ในแบบมวลรวมและมนุษย์กำลังปรับตัวให้ชินกับมัน มันเป็นไปได้อย่างมากในการที่จะทะลายกำแพงลงมาและเรียนร้องความสมบูรณ์แบบของคุณในทุกมิติของเวลาและพื้นที่แม้เมื่อคุณอยู่ในที่ๆคุณอยู่ ณ ตอนนี้

หลอมรวมกับความสมบูรณ์แบบของคุณ

นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคุณออกเดินทาง เมื่อคุณตายและออกจากร่างความสมบูรณ์แบบของคุณก็กลับมารวมกัน เราพบว่ามันน่าทึ่งเพราะบางครั้งมันมีความเกี่ยวพันกันระหว่างใครบางคนที่อยู่อีกด้านหนึ่งของม่านพรางที่ตายไปก่อนหน้าแล้วกับใครบางคนที่ยังคงอยู่บนโลก และการสื่อสารกันก็ไม่ค่อยจะใช่นักเพรามันไม่ใช่คนที่คุณรู้จัก คุณรู้จักคนที่คุณโกรธ คุณรู้จักใครบางคนที่มีความท้าทายของชีวิตและมีอคติ เมื่ออยู่ในความเป็นจริงแล้วพวกเขาล้วนสวยงามและสมบูรณ์แบบ เป็นเพราะพวกเขากลับมาพร้อมกันกับความสมบูรณ์แบบของพวกเขา ดังนั้น จะต้องทำอย่างไรกันล่ะจึงจะเห็นความสมบูรณ์แบบในทุกคน? ถ้าคุณไม่สามารถเห็นมันในตัวคุณเองแล้วล่ะก็ คุณจะมองเห็นมันในคนอื่นล่ะหรือ? เมื่อคุณมองไปที่ทุกคนและความไม่สมบูรณ์แบบของพวกเขา รูปแบบของความงามและชิ้นส่วนต่างๆของความสมบูรณ์แบบอาจจะซุกซ่อนอยู่ในมิติอื่นๆของเวลาและพื้นที่ก็เป็นได้ นั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและเมื่อคุณเริ่มเห็นภาพและเข้าใจแล้วว่าคุณสามารถเปลี่ยนโลกของคุณด้วยความเข้าใจง่ายๆนั้น เมื่อคุณเริ่มเห็นความสมบูรณ์แบบรอบๆตัวแล้ว คุณจะเห็นแม้กระทั่งความไม่สมบูรณ์แบบที่สามารถเป็นสิ่งที่สวยงามและไม่ใช่เรื่องที่ผิดเลย

นี่เป็นหนึ่งในความท้าทายของมิติที่5 ไม่มีอะไรถูกหรือผิดไม่มีการแบ่งแยกแบบนั้นเลย ไม่มีความเป็นทวิภาวะในขั้วทั้งสองที่คุณต้องมีในมิติที่3เพื่อที่จะเล่นเกมนี้ ใช่แล้ว มนุษย์ยังคงเห็นความเป็นจริงในแบบ 3มิติและนำกฎเกณฑ์เก่าๆกลับมาใช้เพราะเป็นมันธรรมชาติของการต่อต้านการเปลี่ยนแปลง มนุษย์มองสิ่งต่างๆว่าดีหรือเลว สูงหรือต่ำ และถูกหรือผิดซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการแบ่งแยกอย่างมากมายบนดาวเคราะห์ของคุณ แล้วจะต้องทำอะไรล่ะเพื่อให้สิ่งนั้นกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ?  ต้องทำอะไรเพื่อนำพลังงานของคุณกลับมากัน ?นี่เป็นคำถามที่เราอยากถาม คุณทุกคนเป็นพลังงานที่สมดุลกันและกัน ฉันไม่ได้เป็นชายหรือหญิง ฉันมีพลังงานของทั้งชายและหญิงและฉันพึ่งพาทั้งสองพลังงานนั้นเพราะทั้งสองให้พละกำลังอย่างไม่น่าเชื่อ พลังงานทั้งสองมีคุณลักษณะที่น่าทึ่งที่สุดที่ผู้อื่นไม่มีอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น จะเป็นเช่นไรหากมีคนมากขึ้นๆที่เริ่มทำเช่นนั้นได้ ? เอาล่ะ คุณเริ่มนำตัวเองกลับเข้ามาสู่ความสมบูรณ์แบบของแสงสีขาวที่คุณเป็นอย่างแท้จริง คุณรู้ว่าคุณสมบูรณ์แบบลึกเข้าไปในจิตวิญญาณของคุณ คุณรู้เมื่อตอนคุณเป็นเด็ก คุณต้องเรียนรู้ว่าคุณไม่สมบูรณ์แบบ มันช่างเป็นประสบการณ์ที่น่าหงุดหงิดเสียจริงนะ

แล้วถ้าจะปลดปล่อยมันออกไปล่ะ ? นั่นคือสิ่งที่เราอยากจะท้าทายให้คุณทำในช่วงเดือนถัดๆไปนี้ หาวิธีในการค้นหาความสมบูรณ์แบบในทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่งศัตรูของคุณ ถ้าคุณมีความสมบูรณ์แบบ คนอื่นๆที่คุณไม่ค่อยชอบนักก็มีด้วย จงมองหาชิ้นส่วนเล็กๆของความสมบูรณ์แบบ  ชิ้นส่วนเล็กๆของแสงสีขาวที่คุณนำมาจากบ้านซึ่งจะช่วยให้ทกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจงรู้ว่าโลกของคุณมีการเปลี่ยนแปลงที่เร็วมาก เป็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วที่ทำให้มนุษย์แยกจากกัน ทำให้มนุษย์โกรธกัน หงุดหงิดกัน รู้สึกราวกับไม่มีพลังอำนาจ คุณสามารถเหนี่ยวนำสิ่งเหล่านั้นด้วยความรักที่คุณมีอยู่ลึกๆภายในตัวคุณแต่ละคน คุณทุกคนเลยนะและเรายินดีต้อนรับคุณในการเล่นเกมของการแสร้งทำเป็นมนุษย์และเปลี่ยนความกลัวให้เป็นความรัก

โปรดปฏิบัติต่อกันและกันอย่างให้เกียรติกัน ดูแลกันและกัน เล่นเกมนี้กันด้วยกันอย่างดี คุณเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน จงเพลิดเพลินไปกับการเดินทางนะที่รัก

ฉันคือเอ็มฉันและฉันรักคุณ

Espavo

Copyright Notice:

Copyright 2000 – 2018 www.espavo.org This information is meant to circulate and may be freely disseminated, in whole or in part with the following conditions: Use of this material signifies that the user agrees to the following conditions: 1. The words “Copyright 2000 – 2017 www.espavo.org” will be included with all published material. 2. User agrees that all rights, including copyrights of translated material, remain the property of Espavo. If you translate this material we reserve the right to share that translation with credit to you as translator, on the Espavo site to make it available to all. Further information from the Group may be found at: https://www.espavo.org. Thanks for helping to spread the Light!